ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ครอบคลุมอะไรบ้าง และแตกต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่างไร
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า โดยทั่วไปแล้วประกันรถยนต์ในไทยสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2+ ชั้น 2 ชั้น 3+ และชั้น 3 โดยในแต่ละประเภทก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งหลายคนยังอาจไม่รู้ถึงข้อแตกต่างของประกันแต่ละแบบมากนัก
และสำหรับใครที่มองว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาแพงเกินไป ก็อาจจะลองมาพิจารณาเป็นระดับรองลงมาอย่างประกันรถยนต์ชั้น 2+ แทน ซึ่งในบทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้อย่างละเอียดว่าโดยทั่วไปแล้วประกันรถยนต์ชั้น 2+ ครอบคลุมอะไรบ้าง รวมทั้งพูดถึงข้อแตกต่างของประกันรถยนต์ชั้น 2+ กับ 1 ด้วย
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง?
1. ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวรถยนต์ของผู้ทำประกัน
หากรถยนต์ของคุณมีประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครอง ก็จะครอบคลุมเวลาที่รถยนต์ของคุณเสียหายจากอุบัติเหตุ กรณีที่รถยนต์แบบมีคู่กรณีเท่านั้น ซึ่งบริษัทที่คุณทำประกันด้วยจะรับผิดชอบเกี่ยวกับค่าสินไหมทดแทน สำหรับกรณีที่รถยนต์ของคุณเกิดความเสียหาย ทว่าต้องเป็นในช่วงระยะเวลาที่คุณได้ทำสัญญาประกันภัยรถยนต์ไว้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องตกแต่ง หรือสิ่งที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ ตามที่มีการได้ระบุไว้ในสัญญา
2. คุ้มครองกรณีที่รถยนต์สูญหาย
ข้อต่อมาที่ประกันรถยนต์ชั้น 2+ รองรับก็คือดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากกรณีที่รถหายเพราะถูกขโมย ในกรณีที่มีการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ รวมไปถึง รถยนต์ที่เสียหายจากการกระทำความผิด หรือพยายามกระทำความผิด ตามช่วงระยะเวลาที่คุณได้ทำสัญญาประกันภัยรถยนต์ไว้
3. คุ้มครองกรณีไฟไหม้
นอกไปจากเรื่องอุบัติเหตุและรถยนต์ถูกขโมยที่หลาย ๆ คนเป็นกังวลแล้ว ก็ยังมีเรื่องของกรณีไฟไหม้ที่อาจสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ในระดับที่ทำให้คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล แต่ถ้าคุณมีประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุณก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้และหมดห่วงไปได้
4. คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
นอกไปจากรถยนต์ที่ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ครอบคลุม ก็จะยังได้รับค่าเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินสำหรับบุคคลภายนอก ซึ่งเกิดจากรถยนต์ที่ผู้ทำประกันใช้ โดยจะได้รับความคุ้มครองค่าเสียหายที่กำหนดไว้ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุ
5. คุ้มครองเพิ่มเติมแนบท้าย
นอกไปจากการคุ้มครองหลักที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ก็ยังมีส่วนของการคุ้มครองเพิ่มเติม ที่ครอบคลุมส่วนของค่ารักษาพยาบาลจากากรผ่าตัด ค่าบริการทางการแพทย์ และค่าบริการอื่น ๆ ตามที่จ่ายจริง จากการที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
นอกจากนี้ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ยังชดใช้กรณีที่มีการเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในสัญญา รวมไปถึงการประกันตัวคนขับจากกรณีที่ประสบอุบัติเหตุและเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และถูกคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดี
ความแตกต่างของประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 1
เรียกได้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ ค่อนข้างที่จะครอบคลุมส่วนที่สำคัญต่าง ๆ แล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณยังไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเลือกเป็นประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 1 ดี นี่คือความแตกต่างของประกันทั้งสอง สิ่งที่ประกันรถยนต์ชั้น 1 ครอบคลุมแต่ 2+ ไม่มีคือ:
กรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี
กรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม
มาถึงตรงนี้ ผู้อ่านก็น่าจะเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประกันรถยนต์ชั้น 2+ ว่าครอบคลุมอะไรบ้าง และแตกต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่างไร ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีข้อแตกต่างใหญ่ ๆ เพียงสองข้อเท่านั้น ได้แก่อุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีและรถยนต์ที่เสียหายจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก การมีประกันรถยนต์เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก
เนื่องจากมีความเสี่ยงในหลายด้าน หากมีประกันรถยนต์ก็จะช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของผู้ทำประกันไปได้มาก
ทีนี้ก็อยู่ที่ผู้อ่านแล้วว่าจะเลือกแบบไหน เพราะแต่ละคนก็มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างครอบคลุมสิ่งที่จำเป็นไม่น้อยเลย